Denza เป็นแบรนด์รถยนต์ที่กำลังได้รับความนิยมในประเทศไทย โดยมุ่งเน้นการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าระดับพรีเมียมที่ตอบโจทย์การใช้งานของคนยุคใหม่ Denza D9 เป็นหนึ่งในรุ่นที่โดดเด่นด้วยการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีล้ำสมัยและความหรูหรา ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มองหารถยนต์ที่ครบครันทั้งสมรรถนะและความสะดวกสบาย
Denza D9 มีสองรุ่น ได้แก่ Performance AWD และ Premium ซึ่งแต่ละรุ่นมีคุณสมบัติและจุดเด่นที่แตกต่างกัน โดยรุ่น Premium เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความคุ้มค่าในราคาย่อมเยา ส่วนรุ่น Performance AWD ตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการพลังและประสิทธิภาพที่เหนือกว่า
หัวข้อ
เปรียบเทียบสเปก Denza D9 ทั้ง 2 รุ่น
1. ขุมพลังและสมรรถนะ
Denza D9 Premium มาพร้อมกับมอเตอร์เดี่ยวแบบขับเคลื่อนล้อหน้า (FWD) ให้กำลังสูงสุด 308 แรงม้า และแรงบิด 360 นิวตันเมตร รองรับการเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลา 9.5 วินาที อีกทั้งยังสามารถวิ่งได้ระยะทางสูงสุด 600 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน NEDC
ในขณะที่รุ่น Performance AWD ใช้มอเตอร์คู่แบบขับเคลื่อนสี่ล้อตลอดเวลา ให้พละกำลังสูงถึง 374 แรงม้า พร้อมแรงบิด 470 นิวตันเมตร ทำให้การเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ทำได้ในเวลาเพียง 6.9 วินาที แม้ระยะทางขับขี่สูงสุดจะอยู่ที่ 580 กิโลเมตร แต่ก็ชดเชยด้วยสมรรถนะที่โดดเด่น
2. ระบบการชาร์จ
ทั้งสองรุ่นรองรับการชาร์จไฟฟ้าทั้งแบบ AC และ DC โดยกำลังไฟสูงสุดสำหรับ AC อยู่ที่ 11 kW และ DC สูงสุดที่ 166 kW การชาร์จไฟจาก 10% ถึง 80% ใช้เวลาประมาณ 38 นาที ทำให้ทั้งสองรุ่นเหมาะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันและการเดินทางระยะไกล
3. เทคโนโลยีและฟีเจอร์ภายใน
ห้องโดยสารของ Denza D9 เต็มไปด้วยความหรูหราและทันสมัย โดยติดตั้งหน้าจอเรือนไมล์ LCD ขนาด 10.25 นิ้ว พร้อมหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ 15.6 นิ้ว ที่รองรับการใช้งาน Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย ระบบเสียงระดับพรีเมียม DynAudio พร้อมลำโพง 14 ตัว และฟังก์ชันพิเศษ เช่น ระบบควบคุมเสียงแบบ 4 โซน และตู้เย็นขนาด 7.5 ลิตร ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย
4. จุดเด่นและความแตกต่าง
รุ่น Performance AWD มาพร้อมกับฟีเจอร์ที่เหนือกว่า เช่น ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อตลอดเวลา โหมดการขับขี่ที่เลือกได้ถึง 5 โหมด และระบบช่วงล่าง DiSus-C ที่ช่วยเพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่ นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์พิเศษอย่างระบบแสดงผลบนกระจกหน้า (W-HUD) และเบาะนั่งพร้อมระบบนวดที่รองรับถึง 4 ตำแหน่ง ขณะที่รุ่น Premium มีเบาะระบบนวดเพียง 2 ตำแหน่งสำหรับผู้โดยสารตอนกลาง และใช้ระบบช่วงล่าง FSD แบบมาตรฐาน
5. ราคาและความคุ้มค่า
ราคาของรุ่น Premium เริ่มต้นที่ 1,999,900 บาท ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่มองหารถยนต์ไฟฟ้าระดับพรีเมียมที่ครบครันในราคาที่เอื้อมถึงได้ ส่วนรุ่น Performance AWD มีราคาเริ่มต้นที่ 2,699,900 บาท โดยให้สมรรถนะและฟีเจอร์ระดับสูงเพื่อตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการประสบการณ์การขับขี่ที่เต็มเปี่ยมด้วยพลังและความสะดวกสบาย
ไม่ว่าคุณจะเลือก Denza D9 รุ่นใด ทั้ง Premium และ Performance AWD ต่างก็มาพร้อมกับเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยและฟีเจอร์ที่ครบครัน หากคุณให้ความสำคัญกับความคุ้มค่า รุ่น Premium คือคำตอบที่เหมาะสม แต่หากคุณมองหาประสิทธิภาพและความหรูหราในระดับสูงสุด รุ่น Performance AWD จะไม่ทำให้คุณผิดหวัง นี่คือรถยนต์ไฟฟ้าที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองทุกความต้องการในชีวิตประจำวันและการเดินทางของคุณ
ชมรีวิว Denza D9 ฉบับเต็ม
ติดต่อเรา
- สถานที่
- สาขาสงขลา : DENZA BD ULTIMATE SONGKHLA (โชว์รูมเดนซ่า บีดี อัลติเมท สงขลา)
- สาขาภูเก็ต : 99/99 หมู่ที่ 5 อำเภอเมืองภูเก็ต ภูเก็ต 83000
- Facebook : Denza BD Ultimate
- LINE : Denza BD Ultimate
- ทดลองขับ : คลิกเลย!
บทความที่น่าสนใจ
